ท่องเที่ยวไทย สถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก โรงแรม แผนที่ เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน เกาะช้าง เกาะสมุย เกาะเสม็ด เที่ยวหน้าหนาว เชียงใหม่ ปาย แผนที่ประเทศไทย เขาใหญ่ เชียงใหม่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เกาะช้าง แม่ฮ่องสอน thailand กาญจนบุรี หัวหิน ททท thailand thai

thailand travel

Monday, March 31, 2008

สระบุรี Saraburi



Saraburi (Thai: สระบุรี) is one of the central provinces (changwat) of Thailand. Neighboring provinces are (from north clockwise) Lopburi, Nakhon Ratchasima, Nakhon Nayok, Pathum Thani and Ayutthaya. Saraburi has been an important town since ancient times. It is believed to have been constructed in the year 1548 during the reign of King Maha Chakkraphat of Ayutthaya as a centre for recruiting troops.
สระบุรี เป็นจังหวัดในภาคกลางของประเทศไทย นับเป็นเสมือนด่านผ่านระหว่างภาคกลางและภาคอีสาน มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ และพรั่งพร้อมด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมาย
จังหวัดสระบุรีมีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดทั้งภาคอีสานและภาคกลาง ได้แก่ ตอนเหนือ ติดกับจังหวัดลพบุรี ทางตะวันออกติดกับนครราชสีมา ทางใต้ติดกับนครนายก ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา ส่วนทางตะวันตกติดกับพระนครศรีอยุธยาและลพบุรี
ภูมิศาสตร์
สภาพภูมิศาสตร์ของจังหวัดสระบุรี นับว่าเป็นทำเลแห่งการเพาะปลูก ได้รับความอุดมสมบูรณ์จากแม่น้ำสายหลัก คือแม่น้ำป่าสัก และสภาพโดยทั่วไปเป็นที่ราบลุ่ม
ภูมิอากาศ
สภาพโดยทั่วไปมีภูมิกาศแบบร้อนชื้น อยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และยังได้รับอิทธิพลจากพายุดีเปรสชันและพายุไต้ฝุ่นอีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายนมีอุณหภูมิเฉลี่ย 28.3 องศาเซลเซียส มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยปีละประมาณ 1147.6 มิลลิเมตร มีฤดูต่าง ๆ 3 ฤดูคือ 1. ฤดูร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม อากาศร้อนและแห้งแล้ง 2. ฤดูฝน ระหว่างเดือนมิถุนายน-ตุลาคม อากาศจะชุ่มชื้นในเดือนกันยายน 3. ฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ อากาศจะหนาวแย็นสลับกับอากาศร้อน
อุทยาน
อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย
อุทยานแห่งชาติพระพุทธฉาย
ข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ชลบุรี Chonburi




Chonburi (Thai: ชลบุรี) is a province (changwat) of Thailand. Neighboring provinces are (from north clockwise) Chachoengsao, Chanthaburi and Rayong. To the west is the Gulf of Thailand. It is heavily industrialized and underpinned by shipping, transportation, tourism, and manufacturing industries, and second to only Bangkok in economic output.

ชลบุรี เป็นชื่อจังหวัดที่ติดกับอ่าวไทยแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายแห่งของประเทศตั้งอยู่ นอกจากด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแล้ว ในขณะเดียวกันนั้นยังถือว่าเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ในด้านการพานิชย์และอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของประเทศแห่งหนึ่งด้วย ในอดีตจังหวัดชลบุรีนั้นเคยเป็นแหล่งที่ตั้งของเมืองท่าที่มีความสำคัญมาก แม้แต่ในปัจจุบันนี้ก็ยังคงเป็นที่ตั้งของท่าเรือที่มีความสำคัญของประเทศรองจากท่าเรือกรุงเทพ นั่นก็คือท่าเรือแหลมฉบัง เนื่องจากมีทำเลที่ตั้งเหมาะสม จังหวัดชลบุรีนั้นมีอาณาเขตติดกับจังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดระยอง และจังหวัดจันทบุรี
ประวัติศาสตร์
จังหวัดชลบุรีนั้นเคยเป็นชุมชนโบราณที่เคยมีมนุษย์ยุคหินใหม่อาศัยอยู่มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์แล้วเพราะว่าเคยมีการขุดค้นด้านโบราณคดีแล้วพบร่องรอยของชุมชนโบราณก่อนประวัติศาสตร์ตรงแถวที่ราบลุ่มแม่น้ำพานทองซึ่งอยู่ในบริเวณวัดโคกพนมดี ตำบลท่าข้าม อำเภอพนัสนิคม ซึ่งแหล่งโบราณคดีที่ค้นพบในครั้งนั้นได้พบสิ่งมีคุณค่าทางโบราณคดีหลายอย่าง เช่น ขวานหินขัด เครื่องประดับจำพวกกำไล ลูกปัด เครื่องปั้นดินเผาแบบใช้เชือกทาบ และได้พบซากของอาหารทะเลอีกด้วยจึงทำให้ทราบว่าบริเวณนี้อยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลมากกว่าปัจจุบันนี้มาก แหล่งโบราณคดีที่กล่าวอ้างทั้งหมดข้างต้นนั้นจึงเป็นหลักฐานยืนยันส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นมาอันแสนยาวนานของจังหวัดชลบุรี
ข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ปาย Pai



Pai (Thai: ปาย) is the northeasternmost district (Amphoe) of Mae Hong Son Province, northern Thailand.
อำเภอปาย เป็นอำเภอขนาดเล็กทางตอนเหนือของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติประเทศแบกแพค ที่มุ่งหน้ามาหาความงามตามธรรมชาติ
ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอปายตั้งอยู่ทางตอนบนของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอข้างเคียง ดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อกับเมืองปั่น จังหวัดตองกี รัฐฉาน (ประเทศพม่า)
ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอสะเมิง และอำเภอแม่แจ่ม (จังหวัดเชียงใหม่)
ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอเวียงแหง อำเภอเชียงดาว และอำเภอแม่แตง (จังหวัดเชียงใหม่)
ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอปางมะผ้า

ประวัติศาสตร์


พระธาตุแม่เย็น
อำเภอปายเป็นเมืองเก่าแก่ มีหลักฐานว่า เจ้าเมืองคนแรกคือ ขุนส่างปายและในสมัย พระเจ้าโหตรประเทศ พระราชาธิบดี เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ส่ง เจ้าแก้วเมือง ออกสำรวจชายแดน ได้พบว่าภูมิประเทศน่าสนใจ จึงแนะนำให้ขุนส่างปายย้ายเมืองมาตั้งฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปายเพราะที่ราบกว้างขวาง ผู้คนจึงเรียกเมืองใหม่ ว่า เวียงใต้ ส่วนเมืองเก่าเรียกว่า เวียงเหนือ
พ.ศ. 2454 เมืองปายได้ยกฐานะเป็นอำเภอ โดยมีนายอำเภอคนแรกชื่อ รองอำมาตย์เอกหลวงเจริญเขตเขลางค์นคร (สอน สุขุมินทร์)
ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์
เมืองปาย เป็นเมืองที่มีคนตั้งถิ่นฐานตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ในสมัยประวัติศาสตร์บริเวณที่ตั้งเมืองปายเป็นเมืองสำคัญของล้านนาในสมัยราชวงศ์มังรายซึ่งมีเมืองเชียงใหม่เป็นศูนย์กลาง ต่อมาเมืองปายได้ร้างไป พร้อมกับเมืองเชียงใหม่ ประมาณ พ.ศ. 2318 – 2338 เมืองปายได้ฟื้นฟูเป็นหมู่บ้าน และพัฒนาเป็นอำเภอปาย โดยมีผู้คนหลายกลุ่มชาติพันธุ์อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ ได้แก่คนไทยวน (คนเมือง) คนไทใหญ่ ปกาเกอญอ (กะเหรี่ยง) และชาวไทภูเขาเผ่าต่าง ๆ ทั้งนี้เนื่องจากเมืองปายตั้งอยู่ในบริเวณที่อุดมสมบูรณ์มีแม่น้ำไหลผ่านหลายสายเหมาะสำหรับการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปัจจุบันเมืองปายเป็นเมืองชุมทางที่สำคัญเมืองหนึ่งบนเส้นทางระหว่างเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน
เมืองปาย สมัยก่อนประวัติศาสตร์
อำเภอปาย มีร่องรอยการอาศัยอยู่ของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และมีชุมชนโบราณที่ปรากฏชื่อในตำนาน คัมภีร์ใบลานหลายเมือง และมีประวัติสืบต่อกันมานับร้อยปี ประกอบกับมีหลักฐานโบราณคดีปรากฏอยู่ในชุมชนโบราณดังกล่าวด้วย จากการศึกษาของพระครูปลัดกวีวัตน์ธนจรรย์ สุระมณี วัดเจดีย์หลวงอำเภอเมือง เชียงใหม่มีรายงานการสำรวจว่า ในเขตเมืองน้อย อำเภอปาย มีหลักฐานโบราณคดี สมัยก่อนประวัติศาสตร์ดังนี้
ถ้ำผีแมน บ้านห้วยหก (ตำบลเวียงเหนือ อำเภอปาย ) อยู่ห่างจากบ้านห้วยหกไปทางทิศตะวันตก ราว 1,500 เมตร พบซากกระดูก และระแทะคล้ายรางไม้ให้อาหารสัตว์ หลงเหลืออยู่บางส่วน ถูกชาวบ้านเผาไปเกือบหมดแล้ว ถ้ำผีแมนที่อยู่ของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์นี้ ในเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีอยู่หลายแห่งเช่น
ถ้ำป่าคาน้ำฮู ตำบลปางหมู อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ถ้ำน้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน พบหลักฐานของใช้ของคนถ้ำในยุคนั้นคือ กำไลแขนทำด้วยโลหะ, หม้อดินลายเชือกทาบ,ขวานหินขุด ระแทะไม้ ฯลฯ
ถ้ำดอยปุ๊กตั้ง อยู่ทางทิศใต้ของบ้านห้วยเฮี้ย (ตำบลเวียงเหนือ อำเภอปาย) ใช้เวลาเดินทางด้วยเท้าจากหมู่บ้าน ประมาณ 1 ชั่วโมง พบเครื่องใช้ของมนุษย์ถ้ำมีลักษณะเช่นเดียวกันกับที่พบในถ้ำผีแมนแห่งอื่น ๆ
ข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เชียงราย Chiang Rai




Chiang Rai (Thai: เชียงราย) is the most northern province (changwat) of Thailand. Neighbouring provinces are (from east clockwise) Phayao, Lampang and Chiang Mai. In the north it borders Shan State of Myanmar and Bokeo and Oudomxai of Laos.
จังหวัดเชียงราย เป็นจังหวัดที่อยู่ทางตอนเหนือที่สุดของประเทศไทย มีพรมแดนติดประเทศพม่าและลาวทางด้านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญเมืองหนึ่งของประเทศไทย และเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจชายแดน จีนตอนใต้-อินโดจีน

สภาพภูมิศาสตร์
จังหวัดเชียงรายมีสภาพภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง มีตำแหน่งที่ตั้ง ดังนี้
ทิศเหนือ ติดกับชายแดนประเทศพม่า และลาว
ทิศตะวันออก ติดกับประเทศลาว และบางส่วนของจังหวัดพะเยา
ทิศใต้ ติดกับ จังหวัดพะเยา ลำปาง และเชียงใหม่
ทิศตะวันตก ติดกับจังหวัดเชียงใหม่
สภาพทางภูมิอากาศ
เนื่องจากจังหวัดเชียงราย เป็นจังหวัดที่มีลักษณะทางภูมิประเทศ เป็นป่าไม้และเทือกเขาที่สูงจึงทำให้ได้รับอิทธพลจากลมมรสุมจากทะเลน้อยมาก จึงทำให้มีความแตกต่างของฤดูร้อนกับฤดูหนาวค่อนข้างมาก คือประมาณเดือนธันวาคมของทุกปี อุณหภูมิจะต่ำมากเฉลี่ยประมาณ 8.7 องศาเซลเซียส และในเดือนเมษายนจะมีอุณหภูมิค่อนข้างสูง โดยในปีพุทธศักราช 2541 เป็นปีที่มีอุหภูมิสูงที่สุดของจังหวัดเชียงราย คือ 36.4 องศาเซลเซียส

การคมนาคม
ทางบก
ภายในประเทศ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 118
เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ถนนไทย-พม่า-จีนและถนนไทย-ลาว-จีน
ทางน้ำ ตามแม่น้ำโขง เส้นทางสายเชียงรุ่ง-เชียงแสน เชื่อมลาว-ไทย-พม่า-จีน
ทางอากาศ ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงราย
สถานที่สำคัญ
สถานที่ท่องเที่ยว
พระตำหนักดอยตุงราชนิเวศน์
วัดพระมหาชินธาตุเจ้า (ดอยตุง)
พระธาตุ ๙ จอม
สามเหลี่ยมทองคำ
ย่านการค้าชายแดนอำเภอแม่สาย
น้ำตกขุนกรณ์
วัดร่องขุ่น ฝีมือ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
ภูชี้ฟ้า
ดอยแม่สลอง
เสาสะดือเมืองเชียงราย
สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ เชียงราย
อุทยานแห่งชาติทางบก
อุทยานแห่งชาติขุนแจ
อุทยานแห่งชาติดอยหลวง
อุทยานแห่งชาติลำน้ำกก
อุทยานแห่งชาติแม่ปืม
นายแพทย์เสม พริ้งพวงแก้ว - ผู้บุกเบิกและสร้างความเจริญก้าวหน้าแก่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
ถวัลย์ ดัชนี - จิตรกรและศิลปินแห่งชาติ
ศาสตราจารย์กิตติคุณ เดชา บุญค้ำ - ภูมิสถาปนิกและศิลปินแห่งชาติ
เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ - จิตรกรผู้ออกแบบและก่อสร้างวัดร่องขุ่น
จูหลิง ปงกันมูล - คุณครูผู้เสียสละ
ปริม อินทวงศ์ - อดีตนักวอลเลย์บอลทีมชาติไทย
ยงยุทธ ติยะไพรัช - อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ประธานรัฐสภาคนปัจจุบัน
พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี)
สายสวรรค์ ขยันยิ่ง - ผู้ประกาศข่าวช่องสาม
เกร็ดข้อมูล
สับปะรดนางแล เป็นสับปะรดที่มีชื่อเสียงจากเชียงราย มีขนาดใหญ่ สีเหลืองสด และมีรสชาติหวานฉ่ำ
สับปะรดภูแล เป็นสับปะรดลูกผสมระหว่างสับปะรดนางแลกับสับปะรดภูเก็ต มีขนาดเล็กเท่าฝ่ามือเหมือนพันธุ์ภูเก็ตและมีสีเหลืองสด รสชาติหวานฉ่ำเหมือนพันธุ์นางแล นิยมปลูกมากบริเวณตำบลนางแล
อำเภอแม่สาย มีทิวเขาชื่อทิวเขานางนอน ซึ่งถ้ามองจากที่ไกลจะเห็นเหมือนผู้หญิงนอนหงายอยู่ โดยจะมองเห็นชัดว่ามีหน้าผาก จมูก ปาก คาง คอ และมีผมยาว โดยสามารถมองเห็นได้จากด้านซ้ายมือบนถนนเชียงราย-แม่สาย
ข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

พิษณุโลก Phitsanulok



Phitsanulok (Thai: พิษณุโลก) is one of the provinces (changwat) of Thailand, located in the North of Thailand. Neighboring provinces are (from east clockwise) Loei, Phetchabun, Phichit, Kamphaeng Phet, Sukhothai, Uttaradit. In the north-east it also has a short border with Xaignabouli of Laos.
พิษณุโลก มีประวัติศาสตร์อันยาวนานควบคู่กับประเทศไทย โดยมีชื่อเรียกต่าง ๆ กันในศิลาจารึก ตำนาน นิทาน และพงศาวดาร เช่น สองแคว สระหลวง สองแควทวิสาขะ ไทยวนที
เดิมเมืองพิษณุโลกเป็นเมืองเก่าสมัยขอม อยู่ห่างจากที่ตั้งเมืองปัจจุบันลงไปทางทิศใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร เรียกว่า "เมืองสองแคว" ที่เรียกเช่นนี้ เพราะตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำสองสาย คือ แม่น้ำน่าน กับ แม่น้ำเหตุ แต่ปัจจุบันแม่น้ำแควน้อยเปลี่ยนทางเดินออกห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 10 กิโลเมตร
ที่ตั้งตัวเมืองเก่าในปัจจุบันคือ บริเวณวัดจุฬามณี ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ของพิษณุโลก แต่เมื่อประมาณพุทธศักราช 1900 พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไท) ได้โปรด ให้ย้ายเมืองสองแคว มาตั้งอยู่ ณ บริเวณตัวเมืองในปัจจุบัน และยังคงเรียกกันติดปากว่า เมืองสองแคว เรื่อยมา
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
ตราประจำจังหวัด: รูปพระพุทธชินราช
ดอกไม้ประจำจังหวัด: ดอกนนทรี (Peltophorum pterocarpum)
ต้นไม้ประจำจังหวัด: พรรณไม้ปีบ (Millingtonia hortensis)
คำขวัญประจำจังหวัด: พระพุทธชินราชงามเลิศ ถิ่นกำเนิดพระนเรศวร สองฝั่งน่านล้วนเรือนแพ หวานฉ่ำแท้กล้วยตาก ถ้ำและน้ำตกหลากตระการตา
ภูมิศาสตร์
ที่ตั้งและอาณาเขต
จังหวัดพิษณุโลก ตั้งอยู่ภาคเหนือของประเทศไทยห่างจากกรุงเทพมหานคร 320 กม. มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 10,815 ตร.กม. หรือ 6,759,909 ไร่ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียงดังนี้
ภูมิประเทศและภูมิอากาศ

ทางตอนเหนือและตอนกลางเป็นเขตเทือกเขาสูงและที่ราบสูง โดยมีเขตภูเขาสูงด้านตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งอยู่ในเขตอำเภอวังทอง วัดโบสถ์ เนินมะปราง นครไทย และชาติตระการ พื้นที่ตอนกลางมาทางใต้เป็นที่ราบ และตอนใต้เป็นที่ราบลุ่ม โดยเฉพาะบริเวณลุ่มแม่น้ำน่านและแม่น้ำยม ซึ่งเป็นแหล่งการเกษตรที่สำคัญที่สุดของจังหวัดพิษณุโลก อยู่ในเขตอำเภอบางระกำ อำเภอเมืองพิษณุโลก อำเภอพรหมพิราม อำเภอเนินมะปราง และบางส่วนของอำเภอวังทอง
จังหวัดพิษณุโลกมีลมมรสุมพัดผ่านจากทะเลจีนใต้และมหาสมุทรอินเดีย และแบ่งฤดูกาลออกได้เป็น 3 ฤดู
ฤดูร้อน ประมาณเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 32 องศาเซลเซียส
ฤดูฝน จะเริ่มประมาณเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ปริมาณน้ำฝน เฉลี่ยประมาณปีละ 1,375 มิลลิเมตร
ฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-มกราคม อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 19 องศาเซลเซียส
การคมนาคม
จากลักษณะทางภูมิศาสตร์ทำให้จังหวัดพิษณุโลกเป็นจุดศูนย์กลางในด้านคมนาคมของภูมิภาคอินโดจีน โดยเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างภาคกลางกับภาคเหนือ รวมทั้งภาคเหนือกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วย จังหวัดพิษณุโลกจึงได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองบริการสี่แยกอินโดจีน" โดยสามารถเดินทางได้โดยทางหลวงหมายเลข 12 ( ตาก-สุโขทัย-พิษณุโลก-หล่มสัก-ขอนแก่น ) ทางหลวงหมายเลข 11 (ตาคลี-วังทอง-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) และทางหลวงหมายเลข 117 (พิษณุโลก-นครสวรรค์) โดยทางหลวงทั้ง 3 สายเชื่อมโยงกันด้วยโครงข่ายถนนทางหลวงวงแหวนเลี่ยงเมืองหมายเลข 12
นอกจากการคมนาคมทางรถยนต์แล้ว การเดินทางมาจังหวัดพิษณุโลกยังสามารถมาด้วยรถไฟ หรือเครื่องบินก็ได้ โดยการบินไทย มีเที่ยวบินมายังท่าอากาศยานพิษณุโลกทุกวัน
อุทยาน
อุทยานแห่งชาติแก่งเจ็ดแคว
อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ
อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
วนอุทยานเขาพนมทอง
สถานที่ท่องเที่ยว
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร
เขาสมอแครง
น้ำตกชาติการ
ทุ่งแสลงหลวง
ภูหินร่องกล้า
น้ำตกสกุโนทยาน
ภูสอยดาว
ล่องแก่ง ลำน้ำเข็ก
พระราชวังจันทร์ เป็นสถานที่ประสูติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ของดีจังหวัดพิษณุโลก
แหนมและหมูยอสุพัตรา
กล้วยตากบางกระทุ่ม
ไม้กวาดบ้านนาจาน
น้ำปลาบางระกำ
สุนัขพันธุ์บางแก้ว
ไก่ชนพันธุ์ไทยเหลืองหางขาว
พระเครื่อง
สมุนไพรทอด
ข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

พัทยา Pattaya



Pattaya (Thai: พัทยา, RTGS: Phatthaya) is a city in Thailand, located on the east coast of the Gulf of Thailand (12°55′39″N, 100°52′31″ECoordinates: 12°55′39″N, 100°52′31″E), about 165 km southeast of Bangkok located within but not part of Amphoe Bang Lamung in the province of Chon Buri.
Meaning the 'south-west monsoon wind" and correctly pronounced "Putt-tuh-YAH" not "Patt-EYE-uh", it ranks as one of the most successful beach resorts in the world, with some 5.4 million visitors arriving in 2005. Increasing numbers of tourists come from the former Soviet Union and East Asia.
The city of Pattaya is a self governing special municipal area which covers the whole tambon Nong Prue and Na Kluea and parts of Huai Yai and Nong Pla Lai. It is located in the heavily industrial Eastern Seaboard zone, along with Si Racha, Laem Chabang, and Chon Buri. However, it remains mostly a tourist city, with very light industry.
Pattaya is second only to Bangkok in high rise buildings, as many condos for foreign residents are built, and has a modest skyline. The city's economy benefits from its relative proximity to Bangkok.
Pattaya is also the center of the Pattaya-Chonburi Metropolitan Area, the conurbation in Chonburi Province.
Reference : http://en.wikipedia.org/wiki/Pattaya

พัทยา หรือ เมืองพัทยา เป็นเขตปกครองพิเศษเขตหนึ่ง (เทียบเท่าเทศบาลนคร) ในเขตจังหวัดชลบุรี จัดเป็นเมืองท่องเที่ยวนานาชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลกโดยเฉพาะหาดทรายที่ทอดยาวไปตามแนวชายฝั่งทะเล จัดได้ว่ามีความสวยงามอีกแห่งของประเทศไทย อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 140 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนฝั่งทะเลทางทิศตะวันออกของอ่าวไทย ซึ่งพัทยาแบ่งเป็น 4 ส่วนได้แก่ พัทยาเหนือ พัทยากลาง พัทยาใต้ และหาดจอมเทียน
พัทยามีรหัสมาตรฐานตาม ISO 3166-2 ว่า TH-S
ประวัติเมืองพัทยา
เริ่มรู้จักกันจากคำบอกเล่าต่อกันมาว่า เมื่อ พ.ศ. 2310 ก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาให้กับพม่า 3 เดือน พระยาตาก (สิน) ขณะนั้นยังเป็นพระยากำแพงเพชร ลงความเห็นว่า หากกรุงศรีอยุธยายังต่อสู้กับพม่าอย่างอ่อนแอเช่นนี้ ต่อไปจะต้องสูญเสียกรุงให้พม่าอย่างแน่นอน พระยากำแพงเพชรจึงรวบรวมสมัครพรรคพวกออกไปตั้งหลักใหม่ ให้มีกำลังทัพเข้มแข็งขึ้นค่อยกลับมากู้กรุงคืน พระยากำแพงเพชรได้เริ่มเคลื่อนทัพออกจากค่ายวัดพิชัยมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ สู้พรางร่นถอยหนีการตามล่า ของทหารพม่าไปพลาง จนกระทั่งเลยเข้าแขวงเมืองชลบุรี พระยากำแพงเพชรหยุดพักทัพที่บริเวณหน้าวัดใหญ่อินทารามในปัจจุบัน แล้วเดินทัพมุ่งตรงไปยังจันทบุรี ระหว่างทางได้พักที่บ้านหนองไผ่ ตำบลนาเกลือ แขวงเมืองบางละมุง ปัจจุบันอยู่ด้านหลังสถานีตำรวจภูธรพัทยา
ตามพระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขาเล่ม 2 กล่าวเอาไว้ว่า ขณะที่ นายกลม เป็นนายชุมนุมคุมไพร่ พลอยู่ที่นั่น ตั้งทัพคอยสกัดคิดจะต่อรองพระยากำแพงเพชรในตอนนั้นขึ้นช้างพลายถือปืนนกสับรางแดงพร้อม ด้วยพลทหารที่ร่วมเดินทางมาแห่ล้อมหน้าหลัง ตรงเข้าไปในระหว่างพวกพลนายกลมมาสกัดอยู่ ด้วยเดชะบาร มีบันดาลให้นายกลมเกิดเกรงกลัวพระเดชานุภาพวางอาวุธสิ้น พาพรรคพวกพลเข้าร่วมกองทัพกับพระยากำแพง เพชร จากนั้นพระยากำแพงเพชรก็น้ำทัพไปหยุดประทับ ณ สถานที่ที่มีหนองน้ำครั้งรุ่งขึ้น หรือวันอังคารแรม 6 ค่ำ เดือนยี่
นายกลมจึงนำไพร่พลหมี่นหนึ่งนำทัพไปถึง ณ ตำบลหนึ่ง และหยุดพักเสียหนึ่งคืน วันต่อมาจึงเดินทัพมาถึง นาจอมเทียนและทุ่งไก่เตี้ย สัตหีบ โดยหยุดพักแรมแห่งละคืน ต่อมาชาวบ้านก็เรียกตำบลนี้ว่า ทัพพระยา และเปลี่ยนมาเรียกใหม่ พัทธยา เนื่องจากเห็นว่าตรงบริเวณที่พระยาตากมาตั้งทัพนั้นทำเลดี และมีลมทะเลชื่อ ลมพัทธยา ซึ่งก็คือลมที่พัดมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ไปทิศตะวันออกเฉียงเหนือในต้นฤดูฝน จึงเรียกสถานที่ แห่งนี้ว่า หมู่บ้านพัทธยา ต่อมาปัจจุบันคำว่า พัทธยา ได้เขียนใหม่เป็น พัทยา
อีกเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้พัทยาเป็นที่รู้จักไปทั่ว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2502 เมื่อมีรถบรรทุกขนาดใหญ่ของทหารอเมริกันประมาณ 4-5 คัน บรรทุกทหารเต็มคันรถ ประมาณคันละ 100 คน จากจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งที่นั่นมีฐานทัพของทหารอเมริกันอยู่ มุ่งมาสู่พัทยา และมาเช่าบ้านตากอากาศของพระยาสุนทร บริเวณตอนใต้ของหาด โดยผลัดกันมาพักผ่อนเป็นงวด งวดละสัปดาห์ จากพฤติกรรมของทหารอเมริกันเช่นนี้ จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นการท่องเที่ยวเมืองพัทยาตอนนี้เอง จากสภาพหมู่บ้านชายทะเลที่เงียบสงบ ก็พลันเปลี่ยนกลับกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศ
ในเวลาต่อมา หมู่บ้านพัทยาก็ถูกพัฒนาเป็นเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ในระดับนานาชาติ เป็นที่รู้จักไปทั่วทุกมุมโลก อย่างเช่นปัจจุบัน
สถานที่ท่องเที่ยว
พัทยาเหนือ
บริเวณพัทยาเหนือนั้นในอดีตเคยเป็นแหล่งชุมชนและอุตสาหกรรมมาก่อน อาชีพหลักของผู้คนแถบนี้คือ การทำนาเกลือและการประมง จึงทำให้มีบรรยากาศของความเก่าแก่หลงเหลืออยู่ บ้านเรือนโบราณ ถนนสายแคบๆ การเป็นอยู่แบบเรียบง่ายตลอดเส้นทางสายนาเกลือ-พัทยา จนถึงบริเวณวงเวียนปลาโลมาซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของถนนเลียบชายหาดซึ่งยาวไปจนถึงพัทยาใต้ ในส่วนของพัทยาเหนือนี้แตกต่างจากบริเวณนาเกลือโดยสิ้นเชิง โรงแรมบ้านพักสถานบรรเทิง ร้านอาหาร ถูกสร้างขึ้นมากมายริมถนนเลียบชายหาดสายนี้ อีกทั้งสามารถเดินเล่นไปตามทางเท้าริมถนนเลียบชายหาดได้อีกด้วย ถนนพัทยาสายสองในส่วนของพัทยาเหนือนั้นมีสถานน่าสนใจมากมาย เช่น ทิฟฟานี่โชว์ อัลคาร์ซ่าคาบาเร่ต์ และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล
พัทยากลาง
พัทยากลางนั้นโรงแรมส่วนมากจะมีขนาดไม่ใหญ่มากแต่จะได้พบกับบาร์เบียร์ ร้านขายเสื้อผ้า และบาร์อะโกโก้มากมาย บริเวณถนนเรียบชายหาดมีสำนักงานตำรวจพัทยาและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รอยัลการ์เด้น พลาซ่า ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าหลักก็ตั้งอยู่พัทยากลางนี้เช่นกัน
พัทยาใต้
พัทยาใต้โค้งมากจากถนนเลียบชายหาด แถบนี้ถูกเรียกว่า วอล์คกิ้ง สตรีท เขตเดินเท้าบริเวณนี้มีร้านค้าเล็กๆ มากมาย ซึ่งบริการ ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายเครื่องกีฬา ร้านขายเครื่องประดับ และร้านขายของที่ระลึก ที่นี่ยังมีบาร์มากกมาย และยังมีร้านอาหารทะเล ซึ่งส่วนใหญ่จะสร้างยื่นลงไปในทะเลเพื่อเพิ่มบรรยากาศในการรับประทานอาหาร พัทยาใต้นั้นดูวุ่นวายกว่าส่วนอื่นๆ ของเมืองพัทยา ถนนอัฐจินดา สัญลักษณ์ของเขตแดนเมืองพัทยาใต้ เมื่อเดินไปตามซอยเล็ก ๆ ซึ่งจะนำทางสู่ถนนพระตำหนักซึ่งเป็นด้านหลังของพัทยาและนำไปสู่ ถนนพัทยาสายสอง
หาดจอมเทียน
หาดจอมเทียน ความยาว 6 กิโลเมตรของหาดจอมเทียนถูกแบ่ง จากส่วนอื่นๆในเมืองพัทยาด้วยเนินเขาด้านหลังของพัทยาใต้ เมื่อขับรถผ่านเนินเขา และผ่านพระพุทธรูปใหญ่ก็จะลงมาสู่หาดที่ค่อนข้างเงียบ ชายหาดนี้เป็นสถานที่ที่เป็นที่นิยมของกีฬาทางน้ำ เนื่องจากพื้นที่แถวนี้มีอากาศที่บริสุทธิ์ ซึ่งถูกพัดมาจากอ่าวไทย และทะเลที่หาดนี้ยังมีความ คับคั่งของเรือน้อยกว่าที่อ่าวพัทยานอกจากนี้หาดจอมเทียนยังเป็นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจโดยการอาบแดด นอกจากนี้หาดจอมเทียนยังมีทางเล็กๆ ซึ่งมีแหล่งช็อปปิ้ง บาร์เบียร์ และยังมีโรงแรมที่มีหาดส่วนตัว บังกะโลคอมเพล็กซ์ คอนโดมิเนียม และร้านอาหาร
เกาะล้าน
เกาะล้าน อยู่ห่างชายฝั่งพัทยา 7 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 4 ตารางกิโลเมตร มีชายหาดที่สวยงามหลายแห่ง ส่วนใหญ่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำ ดูปะการัง เล่นกีฬาทางน้ำ เช่น เรือลากร่มชูชีพ เรือสกี สกู๊ดเตอร์ โดยเฉพาะที่หาดตาแหวน หาดทองหลาง หาดนวล และหาดเทียน ส่วนหาดแสมบรรยากาศเงียบสงบกว่าหาดอื่น บริเวณเกาะล้าน และเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่รอบ ๆ เช่น เกาะครก และเกาะสากเป็นแหล่งตกปลาดำน้ำดูปะการัง ทั้งแบบน้ำลึกและน้ำตื้น และเป็นสถานที่ฝึกหัดเรียนดำน้ำ
เกาะสาก
เกาะสากเป็นเกาะขนาดเล็ก ห่างจากเกาะล้านไปทางทิศเหนือประมาณ 600 เมตร รูปร่างโค้งเป็นรูปเกือกม้าหงาย มีหาดทราย 2 หาดทางทิศเหนือและใต้ของเกาะ และมีแนวปะการัง บนเกาะมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว[1]
หมู่เกาะไผ่
เกาะไผ่จะอยู่ห่างจากชายฝั่งของเมืองพัทยา ประมาณ 23 กิโลเมตร และมีระยะทางที่ห่างจากเกาะล้านประมาณ 9.5 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีกีฬาทางน้ำ เช่น การดำน้ำดูปะการัง เป็นที่พักผ่อน หมู่เกาะไผ่ในปัจจุบันทางกองทัพเรือเป็นผู้ดูแลและพัฒนา
การเดินทาง
โดยรถยนต์ จาก อำเภอเมืองชลบุรี ตรงมาตาม ถ.สุขุมวิท ผ่าน อำเภอศรีราชาและ อำเภอบางละมุง ถนนเข้าสู่เมืองพัทยามีสามเส้นหลักๆ คือ ถ.พัทยาเหนือ อยู่ตรงหลัก กม.144 ถ.พัทยากลาง อยู่ประมาณหลัก กม.145-146 และ ถ.พัทยาใต้ หลัก กม.147 ทั้งสามเส้นจะไปพบกับถนเลียบชายหาดพัทยา
โดยรถประจำทาง มีรถโดยสารประจำทางออกจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ สถานีขนส่งสายใต้ สถานีขนส่งเอกมัยและหมอชิตไปพัทยา
โดยรถไฟ จากกรุงเทพฯ มีบริการเพียงวันละหนึ่งเที่ยว ออกจากสถานีกรุงเทพฯ เวลา 06.55 น. ถึงสถานีพัทยาเวลา 10.45 น. เวลาเดินทาง 3 ชม. 40 นาที
โดยเครื่องบิน มีสนามบินอู่ตะเภาที่สัตหีบ และเที่ยวบินที่มีปัจจุบันเปิดบริการโดย สายการบิน Bangkok Airways ถึง และ จาก เกาะสมุย
งานและเทศกาล
เทศกาลดนตรีพัทยา หรือ พัทยา มิวสิก เฟสติวัล (Pattaya Music Festival) เป็นเทศกาลดนตรีประจำปีที่จัดขึ้นที่พัทยา โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 ลักษณะตัวงานจะจัดในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี มีการแสดงของกลุ่มนักร้อง นักดนตรี ทั้งไทยและต่างประเทศ
ข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

กาญจนบุรี เมืองกาญ



Kanchanaburi (Thai: กาญจนบุรี) is the largest of the central provinces (changwat) of Thailand. Neighboring provinces are (from north clockwise) Tak, Uthai Thani, Suphan Buri, Nakhon Pathom and Ratchaburi. In the west it borders Kayin State, Mon State and Tanintharyi Division of Myanmar.
จังหวัดกาญจนบุรี ลักษณะทางภูมิประเทศส่วนใหญ่จะเป็นป่า ซึ่งจะมีทั้งป่าดงดิบและป่าโปร่ง มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 19,473 ตารางกิโลเมตร มีระยะทางห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 129 กิโลเมตร
หน่วยการปกครอง
การปกครองแบ่งออกเป็น 13 อำเภอ 95 ตำบล 943 หมู่บ้าน 206 ชุมชน 31 เทศบาล 90 อบต.
สถานที่ท่องเที่ยว
อุทยาน
อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์
อุทยานแห่งชาติเขาแหลม
อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์
อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์
อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
อุทยานแห่งชาติไทรโยค
อุทยานแห่งชาติลำคลองงู
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ
อื่นๆ
สะพานข้ามแม่น้ำแคว
ทางรถไฟสายมรณะ
เขื่อนศรีนครินทร์
เขื่อนวชิราลงกรณ
ไอ้บุญทองบ้านหนองขาว
พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย-พม่า
พิพิธภัณฑ์สงครามโลก (Jeath Museum)
ช่องเขาขาดพิพิธภัณฑสถานแห่งความทรงจำ (Hellfire Pass Memorial Museum) อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
สวนหินสมเด็จพระศรีนครินทร์
วัดสุนันทวนาราม

ข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

หัวหิน Hua Hin



Hua Hin (Thai หัวหิน) is a famous beach resort town in Thailand, in the northern part of the Malay Peninsula, some 200 km south of Bangkok. It has a population of 84,883 in an area of 911 km², and is one of eight districts (Amphoe) of the Prachuap Khiri Khan province.


หัวหินเป็นอำเภอที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดีทั้งชาวไทยและต่างประเทศ หัวหินเดิมชื่อบ้านสมอเรียง หรือบ้านแหลมหิน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ได้ทรงสร้างพระราชวังไกลกังวลเพื่อทรงประทับพักผ่อนในฤดูร้อน และปัจจุบันพระราชวังไกลกังวลนั้นเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน
ทุกวันนี้หัวหินมีชือเสียงจากการเป็นสถานที่ตากอากาศที่สามารถเที่ยวได้ใน 1 วันและอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 281กม.หรือประมาณ 2.5 - 3 ชั่วโมงนั่งรถ หรือ 45 นาทีหากเดินทางโดยเครื่องบิน หัวหินเป็นประตูสู่ภาคใต้ โดยสามารถเดินทางไปจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เพื่อไปสู่ชุมพรได้ ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2549 ได้มีการนำเสนอต่อครม. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ศึกษาความเป็นไปได้ในการรวมอ.หัวหิน อ.ปราณบุรี และอ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ กับ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เป็นจังหวัดใหม่ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสฉลองครบรอบ 80 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่ตั้ง
ทิศเหนือ อำเภอแก่งกระจาน อำเภอท่ายาง อำเภอชะอำ (จังหวัดเพชรบุรี)
ทิศใต้ อำเภอปราณบุรี
ทิศตะวันออก อ่าวไทย
ทิศตะวันตก ประเทศพม่า
การแบ่งเขตการปกครอง
อำเภอหัวหินแบ่งเขตการปกครองย่อย เป็น 7 ตำบล
1. หัวหิน
2. หนองแก
3. หินเหล็กไฟ
4. หนองพลับ
5. ทับใต้
6. ห้วยสัตว์ใหญ่
7. บึงนคร
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
จุฬามณีเจดีย์ วัดเขาตะเกียบ
หาดหัวหิน
สถานีรถไฟหัวหิน
โรงแรมรถไฟ
สนามกลอฟ์หัวหิน
ตลาดโต้รุ่งหัวหิน
จุดชมวิวเขาหินเหล็กไฟ
เขาตะเกียบ เขาพิทักษ์
หมู้บ้านช้าง
ถ้ำไก่หล่น
นำตกป่าละอู่
หมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว
วัดห้วยมงคล
หมายเหตุ วังไกลกงวล ทรงโปรดตั้งขึ้นเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ ห้ามมิให้ผู้ไม่มีกิจธุระเกี่ยวข้องเข้าชมและกระทำการใดๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เกาะเสม็ด Ko Samet



Ko Samet (Thai: เกาะเสม็ด), is an island located in the Gulf of Thailand off the coastline of the Thai province of Rayong, approximately 220 km southeast of Bangkok. Ko Samet is located in the Phe (Thai: เพ) District of the Amphoe Mueang Rayong (Thai: เมืองระยอง, the capital district, or Amphoe Mueang), of Rayong province.
The island derives its name from the cajeput tree found throughout the island, as the Thai language word for cajeput is samet (the cajeput tree is formally known in Thai ต้นเสม็ดขาว). In the past, this island has also been referred to by its colloquial name, Ko Kaew Phitsadan (Thai: เกาะแก้วพิศดาร), or the "Magic Crystal Island".
Reference : http://en.wikipedia.org/wiki/Ko_Samet

เกาะเสม็ด ตั้งอยู่ในเขตตำบลเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อของระยอง ที่ได้รับความนิยมทั้งจากชาวไทยและต่างประเทศ อยู่ห่างจากชายฝั่งบ้านเพประมาณ 6.5 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 3,125 ไร่ มีลักษณะเป็นเกาะรูปสามเหลี่ยม เชื่อกันว่าคือเกาะแก้วพิสดาร ในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ของสุนทรภู่ อาจเป็นเพราะที่เกาะเสม็ดนี้มีหาดทรายขาวปานแก้วอยู่ทั่วไป
เหตุที่ชื่อว่าเกาะเสม็ดก็เพราะมีต้นเสม็ดขาวและเสม็ดแดงขึ้นอยู่มาก ชาวบ้านนำมาใช้เป็นไต้จุดไฟ
บนเกาะเสม็ดไม่มีแม่น้ำลำคลอง ประมาณ 80% ของพื้นที่ เป็นภูเขาและป่าไม้เบญจพรรณ ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน ช่วงเดือนพฤษภาคมมีมรสุมและคลื่นลมจัดมาก เดือนสิงหาคมมีฝนตกชุก
ภูมิประเทศ
สภาพเกาะมีสันเขาเป็นแกนยาวจากตัวเกาะด้านเหนือมาทางใต้ ฝั่งตะวันตกของเกาะ เป็นหน้าผาสูงชันและลาดชันลงสู่ฝั่งตะวันออกที่มีชาดหาดเว้าแหว่ง ส่วนฐานของเกาะอยู่ด้านทิศเหนือ ซึ่งหันเข้าสู่ฝั่งบ้านเพ มีภูเขาสลับซับซ้อนกันอยู่ 2-3 ลูก มีที่ราบอยู่ตามริมฝั่งชายหาด ส่วนใหญ่จะอยู่ทางด้านเหนือและตะวันออกของเกาะในบริเวณปลายแหลมด้านใต้มีเกาะเล็กๆ อยู่ใกล้ๆ 3 เกาะ คือ เกาะจันทร์ เกาะสันฉลาม และเกาะหินขาว ซึ่งเป็นหินล้วน ไม่มีต้นไม้ เป็นที่ อาศัยและวางไข่ของนกนางนวล
สถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะเสม็ด
อ่าวกลาง อยู่ทางตอนเหนือของเกาะ มองเห็นจากฝั่งบ้านเพ มีหาดทรายขาวยาวประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของชุมชน หมู่บ้านเกาะเสม็ด และเป็นที่จอดเรือท่องเที่ยว หาดทรายแก้ว อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะห่างจากหมู่บ้านเกาะเสม็ดประมาณ 800 เมตร เป็นหาดทรายที่สวย ที่สุดของเกาะ เป็นหาดทรายละเอียดขาว สะอาด ยาวประมาณ 780 เมตร
อ่าววงเดือน อยู่ทางด้านตะวันออกทางตอนกลางของเกาะ เป็นอ่าวโค้งคล้ายพระจันทร์ครึ่งดวง หาดทรายขาวสะอาดยาวประมาณ 500 เมตร หาดอ่าวพร้าว เป็นหาดเดียวที่อยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะมีความยาวประมาณ 200 เมตร นอกจากนี้ยังมีอ่าวและหาดที่สวยงาม อีกมาก ได้แก่ หาดหินโคร่ง อ่าวไผ่ อ่าวทับทิม อ่าวนวล อ่าวคอก อ่าวช่อ อ่าวเทียน อ่าวหวาย อ่าวกิ่วนอก และอ่าวกะรัง
ข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เชียงใหม่




จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของประเทศไทย เส้นรุ้งที่ 16 องศาเหนือ และเส้นแวงที่ 99 องศาตะวันออก สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,027 ฟุต (310 เมตร) ส่วนกว้างจากทิศตะวันตกจรดทิศตะวันออกประมาณ 138 กิโลเมตร ส่วนยาวจากทิศเหนือจรดทิศใต้ประมาณ 320 กิโลเมตร ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 750 กิโลเมตรโดยทางรถไฟ และรถยนต์ประมาณ 720 กิโลเมตรตามแนวทางหลวงแผ่นดินสายเหนือ
ประวัติศาสตร์
เมืองเชียงใหม่สร้างขึ้นโดยพญามังราย ในปี พ.ศ. 1839 ในชื่อ "นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่" และใช้เป็นราชธานีของอาณาจักรล้านนา ในอดีต เชียงใหม่มีฐานะเป็นราชอาณาจักรนครรัฐอิสระ ซึ่งปกครองโดยกษัตริย์ราชวงศ์มังรายตั้งแต่ พ.ศ. 1839-2101 แต่ต่อมาเชียงใหม่ได้เสียเมืองให้แก่พระเจ้าบุเรงนองในปี พ.ศ. 2101 และได้ถูกปกครองโดยพม่ามานานกว่าสองร้อยปี จนถึงสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้มีการทำสงครามเพื่อขับไล่พม่าออกจากเมืองเชียงใหม่และเชียงแสนได้สำเร็จ โดยการนำของเจ้ากาวิละและพระยาจ่าบ้าน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ สถาปนาเจ้ากาวิละขึ้นเป็นพระเจ้าบรมราชาธิบดีกาวิละ โดยให้ปกครองหัวเมืองฝ่ายเหนือในฐานะประเทศราชของสยาม และราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์หรือราชวงศ์เจ้าเจ็ดตน ซึ่งเป็นเชื้อสายของพระเจ้าบรมราชาธิบดีกาวิละ ก็ได้ปกครองเมืองเชียงใหม่และหัวเมืองต่าง ๆ สืบต่อมา ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการปฏิรูปการปกครองหัวเมืองประเทศราช และมีการจัดตั้งการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล เรียกว่า มณฑลพายัพ ต่อมาเชียงใหม่ได้มีการปรับปรุงการปกครองและมีฐานะเป็นจังหวัดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2476 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจนถึงปัจจุบัน

ภูมิประเทศ
ทิศเหนือ
รัฐฉานของสหภาพพม่า โดยมีสันปันน้ำของดอยคำ ดอยปกกลา ดอยหลักแต่ง ดอยถ้ำป่อง ดอยถ้วย ดอยผาวอก และดอยอ่างขางอันเป็นส่วนหนึ่งของทิวเขาแดนลาว เป็นเส้นกั้นอาณาเขต

ทิศใต้
อำเภอสามเงา อำเภอแม่ระมาด และอำเภอท่าสองยาง (จังหวัดตาก) มีร่องน้ำแม่ตื่นและสันปันน้ำ ดอยเรี่ยม ดอยหลวงเป็นเส้นกั้นอาณาเขต

ทิศตะวันออก
อำเภอแม่จัน อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอแม่สรวย อำเภอเวียงป่าเป้า (จังหวัดเชียงราย) อำเภอเมืองปาน อำเภอเมืองลำปาง (จังหวัดลำปาง) อำเภอบ้านธิ อำเภอเมืองลำพูน อำเภอป่าซาง อำเภอเวียงหนองล่อง อำเภอบ้านโฮ่ง และอำเภอลี้ (จังหวัดลำพูน) ส่วนที่ติดจังหวัดเชียงรายและลำปางมีร่องน้ำลึกของแม่น้ำกก สันปันน้ำดอยซาง ดอยหลุมข้าว ดอยแม่วัวน้อย ดอยวังผา และดอยแม่โตเป็นเส้นกั้นอาณาเขต ส่วนที่ติดจังหวัดลำพูนมีดอยขุนห้วยหละ ดอยช้างสูง และร่องน้ำแม่ปิงเป็นเส้นกั้นอาณาเขต

ทิศตะวันตก
อำเภอปาย อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน อำเภอขุนยวม อำเภอแม่ลาน้อย อำเภอแม่สะเรียง และอำเภอสบเมย (จังหวัดแม่ฮ่องสอน) มีสันปันน้ำ ดอยกิ่วแดง ดอยแปรเมือง ดอยแม่ยะ ดอยอังเกตุ ดอยแม่สุรินทร์ ดอยขุนยวม ดอยหลวง และร่องแม่ริด แม่ออย และสันปันน้ำดอยขุนแม่ตื่นเป็นเส้นกั้นอาณาเขต
แม่น้ำสำคัญที่ไหลผ่านจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ แม่น้ำปิง แม่น้ำแตง แม่น้ำแจ่ม แม่น้ำกก แม่น้ำกวง แม่น้ำตื่น และแม่น้ำฝาง

ภูมิอากาศ
เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีสภาพอากาศค่อนข้างเย็นเกือบตลอดทั้งปี มีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี 25.4 องศาเซลเซียส โดยมีค่าอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 31.8 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 20.1 องศาเซลเซียส
สภาพภูมิอากาศจังหวัดเชียงใหม่อยู่ภายใต้อิทธิพลมรสุม 2 ชนิด คือลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ แบ่งภูมิอากาศออกได้เป็น 3 ฤดู ได้แก่
· ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนตุลาคม
· ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์
· ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม

อุทยานแห่งชาติของเชียงใหม่
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย
อุทยานแห่งชาติแม่ปิง
อุทยานแห่งชาติออบหลวง
อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
อุทยานแห่งชาติศรีลานนา
อุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา
อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้
อุทยานแห่งชาติขุนขาน
อุทยานแห่งชาติเชียงดาว
อุทยานแห่งชาติแม่โถ
อุทยานแห่งชาติแม่ฝาง
อุทยานแห่งชาติออบขาน
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://th.wikipedia.org/wiki/

Wednesday, March 12, 2008

Thai Massage

Unlike European style, traditional Thai massage focuses on circulation and pressure points, promoting internal health as well as muscular flexibility.
TraditionalThe traditional procedure is centuries old. Using her hands, elbows, knees and feet, the masseuse applies pressure to numerous points along the body’s meridians, or ‘life-power lines’, and manipulates the customer’s body and limbs. The aim is to encourage an even and harmonious flow of physical energy.
Reduce TensionTechniques vary – people who like rigorous workouts will get exactly that in Bangkok, while northern techniques are substantially gentler. Whichever one you go for, try not to fight the masseuse – stay loose so she can work properly. Thai massage is not for everyone, but most people walk out far less tense than when they went in.
Study CentersTraditional parlors are widespread in Thailand – Bangkok has hundreds, and Wat Pho is the city’s massage Mecca, both for treatment and study. Massage prices differ everywhere, but US$10 per hour is about the limit. Good hotels provide massage services and can also recommend traditional venues around the city.
Reference : http://www.circleofasia.com/Thai-Massage-Thailand.htm

Eco-tourism

Thailand has made some efforts over the last 30 years to preserve its lush flora and fauna – with mixed success. Though visitors come from all over the world to enjoy the country’s huge national parks, illegal encroachment continues.
Environmental DegradationThailand’s popularity with tourists and its recent prosperity have benefited the country’s economy, but the downside is the degradation of its natural environment.
Logging and encroachment have decimated forests. Industry and ignorance have polluted waterways. Unchecked development has buried greenery under concrete. Also to blame are grandiose and sometimes questionable government projects such as dams and pipelines. The ocean has suffered too. Over-fishing and looting of marine life have ruined previously pristine areas. Animals have borne the brunt of the onslaught, as habitats shrink and illegal trading in wildlife continues. Perhaps most obvious to visitors is the proliferation of garbage.
Sustainable DevelopmentThankfully, Thailand is realizing the need to preserve its natural heritage. Green groups are working with government and international organizations to establish guidelines and practices leading to sustainable development, not just in tourist areas, but all over the kingdom. In forest and marine parks, local people have been invited to participate in tourism, showing them the benefits of preserving the environment rather than exploiting it.
Responsible TourismPlease help. Boycott goods made of turtle shell, ivory, or body parts of tigers and leopards. Refuse shark’s fin soup, bird’s nest soup and exotic ‘jungle food’. This is meat from endangered animals such as Asiatic black bears and Malaysian sun bears, creatures that endure horrific torture before ending up on the plate. Report any trade in endangered wildlife to Wildlife Fund Thailand (tel. 02-521 3435, fax 552 6083). Dispose of garbage properly and encourage others, especially tour operators, to do so too.
Reference : http://www.circleofasia.com/Eco-tourism-Thailand.htm
Scuba Diving
There is a whole other world beneath the surface of Thailand’s seas. Some of the finest scuba diving anywhere can be found among Thailand’s coral reefs.
Qualified InstructorsThe Gulf of Thailand and the Andaman Sea possess superb dive sites, as many guidebooks will testify. Diving gear and PADI/NAUI instruction are available from dive shops on every major island and coastal resort. Instruction costs roughly US$250-330 (with equipment) for full qualification and is mostly in English or German, with several other languages in larger centers.
Year-round DivingDiving in the Gulf is generally all year round: Pattaya is the foremost diving center due to its close proximity to Bangkok. Visibility here is often poor, but at smaller islands nearby it is much better – 3 to 9 meters at most sites, more at those farther out. Excursion prices start at around US$50 for two dives with gear, guide and lunch all included. For this you can see natural and artificial reefs – shipwreck prices are higher. Non-divers can usually join dive trips for a discount of 30-50%. Other good centers along the eastern side of the south coast are Koh Samui, Koh Phangan and Koh Tao.
Prime LocationsPhuket is the main dive center in the Andaman Sea, with most dive shops concentrated around Patong Beach. Other areas are easily accessible from Phuket: the beautiful bays of Krabi and Phang Nga are just an hour or two away by boat. The Similan and Surin island groups take longer to reach, but the marine life (including manta rays and the occasional whale shark) and stunning coral reefs are well worth the trip. December to April is the best diving season here.
Reference : http://www.circleofasia.com/Scuba-Diving-Thailand.htm

Nature Expeditions

Thailand’s jungles are teeming with wildlife, including tigers, elephants and thousands of bird species. Though wild, these areas are more accessible than one might think, and treks to hilltribe villages have grown in popularity.
Soft AdventureAnyone with a love of the great outdoors will enjoy the lush mountain trails of northern Thailand. Organized treks are widely available from agents in Chiang Mai, Chiang Rai, Mae Hong Son and smaller towns such as Mae Sot, Pai and Mae Sariang. These take you through remote villages, where you stay overnight with ethnic hill tribes such as the Lahu, Lisu, Akha and Karen. Average treks are 4 days, 3 nights and cost around US$50, but longer treks are possible. Many treks include bamboo rafting and elephant riding, although these may cost extra. Always ask what is included before paying for a trek - shop around and ask for recommendations. Your trekking agent and their guides should also be registered with the government.
Some Don'tsHill tribe villagers are generally very hospitable and friendly, but you should take care not to offend their sensibilities. Always ask before taking photographs of people and homes, and show respect for their religious beliefs, items and ceremonies. Avoid the temptation to shower candies and other gifts on children, as this can create certain expectancies when other trekkers come through. Guides can mediate to arrange donations for the community if you want to give.
TrekkingThe best time to go trekking is during the dry season, from September/October to January/early February. Nights are chilly around Christmas and New Year, so take warm clothing. You can go trekking at other times, but February to June/July is hot, and it rains heavily from July to September.
Reference : http://www.circleofasia.com/Nature-Expeditions-Thailand.htm

Golfing

Offering numerous courses designed by some of the biggest names in the sport, coupled with its famous hospitality, Thailand is one of the best–and cheapest–places to spend a holiday on the links.
Good ValueIf you plan to stay in or around Bangkok there are plenty of courses to visit, such as the 18-hole Natural Park by Jack Nicklaus and the 27-hole Panya Indra by Ronald Fream. Country clubs often hire equipment and green fees start at around US$15, although prices fluctuate, especially at weekends.
Package ToursGolf tour companies provide great value, all-inclusive packages with accommodation in fine hotels. Asian Splendour Holidays Ltd. offers 4-day/3-night golfing trips at premier courses all over Thailand – check out their website at www.ash-golf.com for prices. Hua Hin Golf Tours provides superb golfing holidays with transport, accommodation, club hire, tutoring and lots more. Their website is www.huahingolf.com. Golf Orient is another organization specializing in tours to Kanchanaburi and Phuket. You can reach them at www.golforient.com. For general information on golfing in Thailand, www.golfonline.in.th is a useful place to look.
Golf StoresShopping malls and department stores usually stock good selections of clubs and equipment. You can get great bargains in sales, so look around before you buy.
Reference : http://www.circleofasia.com/Golfing-Thailand.htm

Bird Watching

Diverse HabitatThailand is a birdwatcher’s paradise. Not only does the country’s 500,000 square kilometers sustain at least 955 bird species (more than Europe or North America), its highly developed infrastructure also makes it easy to access and explore areas teeming with all sorts of wildlife. The tropical climate, though sometimes a little on the warm side, means that any time of year is hospitable for birdwatchers to come and commune with our feathered friends.
The nation’s terrain varies considerably from deciduous forests in the mountainous north to tropical lowlands of swamp, scrub, jungle, mangrove and coastline. It would be easy to spend a lifetime documenting all the species dwelling here, though a week or so should yield enough sightings to delight even the most discerning birdwatcher.
Convenient ParksNot surprisingly, most species in Thailand can be found in the many lush national parks and sanctuaries. The vast Doi Inthanon National Park for example, includes Thailand’s highest mountain with the rare Green-tailed Sunbird taking up residence at the 2,500-meter summit. Closer to Bangkok – about three hours’ drive – is the beautiful Khao Yai National park, hosting more than 300 bird species including varieties of Parrot, Kingfisher, Cuckoo, Woodpecker and Babbler, to name a few.
Though the parks have strict regulations restricting development, all of them offer comfortable resorts either within the park or conveniently nearby providing the visitor a relaxing sanctuary of their own after a hard day spotting birds.
Reference : http://www.circleofasia.com/Bird-Watching-Thailand.htm

Shopping

From traditional handicrafts to discounted designer goods, Thailand can satisfy even the most demanding shopper. In modern aircon supermalls or roadside bazars, there’s plenty to take home with you.
Miles of MallsBangkok’s department stores frequently slash 10-80% off designer goods, and some offer VAT refunds for tourists. Malls comprise shops and department stores, which are comfortable to browse around while escaping the heat and rain. The most popular and convenient are: Mahboonkrong, Siam Discovery and Siam Center (Rama 1 Rd), World Trade Center and Gaysorn Plaza (Rajdamri Rd), Central Chidlom and Sogo (Ploenchit Rd), Emporium (Sukhumvit Rd) and Silom Complex and Robinson (Silom Road). Seacon Square (Sri Nakharin Rd) and The Mall Bangkapi (Lad Prao Rd) are also excellent, though farther out. Prices in malls are fixed – no bargaining, please.
MarketsMarkets hold bargains galore, especially for skilled negotiators seeking wholesale deals. The giant Weekend Market (Chatuchak) stocks, among other things, clothing, pets, plants, handicrafts, ceramics and food. Good for clothing are Pratunam and Bo Bae markets. Silom, Sukhumvit (Nana), Patpong and Khao Sarn Roads all have street markets selling handicrafts, fake designer clothes, CDs, cassettes, watches etc. Prepare to barter! Pahurat and Chinatown also provide interesting shopping walks.
Handicrafts and HandiworkNarayanaphand (beside Gaysorn Plaza) and Central Chidlom sell fine handicrafts, and small shops throughout the city have interesting selections of pottery, woodcarvings, textiles and furniture. Thailand is famous for gems and jewelry, and these are available everywhere in Bangkok: ask around for reputable showrooms and avoid touts offering unbelievable deals or promotions. For suits, Bangkok’s innumerable tailors make inexpensive but realistic copies of famous names: shop around for material and workmanship, as you get what you pay for.
Reference : http://www.circleofasia.com/Shopping-Thailand.htm

Dining

Food for ThoughtFood, whether it is a snack, main course or dessert, is an art in Thailand. Dishes range from hot and spicy soups like tom yum goong (shrimp) to mild and benign rice dishes like kao pad gai (fried rice with chicken), so there is something for everyone. Whatever your taste, Thai food (especially seafood) should definitely be a part of your visit. For the less adventurous, international dishes are easily available in the myriad establishments of popular tourist havens such as Bangkok, Chiang Mai, Pattaya, Phuket etc. In international restaurants, you will receive a knife and fork for western meals, but for local dishes a fork and spoon are customary, as local people use these or chopsticks for almost every meal.
Traditional FareStreet and hawker stalls all over the country offer a cheap way to sample local fruits and traditional food. If you have trouble communicating, just point to what you want and let the vendor prepare the dish. In bigger towns and cities, most malls have food centers with large selections of traditional fare in the comfort of air conditioning. Menus are seldom in English, however.
Wide Selection in BangkokIn Bangkok, decent restaurants to suit everyone’s pocket are all around Sukhumvit Road, Silom Road and Siam Square. There are also pleasant places in malls such as Siam Center, the World Trade Center, Emporium and Silom Complex. Major hotels have excellent restaurants with top class cuisine. For cheap deals, backpackers’ haven Khao Sarn Road is lined with budget caf้s offering mixed-quality food.
Reference : http://www.circleofasia.com/Dining-Activity-Thailand.htm

Beach Activities

Thailand has some of the world’s most beautiful beaches. Whether tucked away on a secluded island or dancing till dawn in a lively resort town, there is a beach to suit every taste and budget.
Pattaya and JomtienNear Bangkok is busy Pattaya, divided into north, central and south. Accommodation is varied and always available. Although the beach is nothing special, dining and entertainment abound and water sports (water-skiing, windsurfing, parasailing, jet skiing and fishing) keep beach goers satisfied. South of Pattaya, Jomtien is a nicer, quieter beach offering similar facilities. North of Pattaya, Wong Amat’s narrow beach is a complete break, with just a few restaurants staying open late.
Diving and snorkeling are available around the islands off Pattaya, but visibility is not as good as it is off the southern islands.
Hua HinFour hours by bus from Bangkok, Hua Hin is a lively, breezy town with a long white-sand beach. Tourists can take pony rides, and Wat Khao Takiap rewards those who walk there with a nice sea view. A few catamaran, parasailing and jet ski operators work off Hua Hin beach, but it is mostly peaceful.
Koh SamuiKoh Samui has lovely beaches to suit everyone. The most active are Chaweng and Lamai, which offer similar activities to Pattaya plus mountain bike, motorcycle and jeep hire. Chaweng also has vibrant nightlife. Northwards, Koh Phangan is cheaper and quieter, except for the riotous full moon parties at Had Rin. Northwards again, Koh Tao is a restful (but busy in the high season) getaway with great diving.
Reference : http://www.circleofasia.com/Beach-Activities-Thailand.htm

Arts & Culture

Thailand is rightly proud of its rich heritage of arts and culture, and have made it readily accessible to the country’s many visitors.
Cultural PrideThe Grand Palace illustrates the splendor of royalty, and the golden stupas of adjoining Wat Phra Kaew symbolize Thailand’s religious pride. This temple houses the nation’s most revered Buddha image, the Emerald Buddha; dress respectfully and bring your passport. Temples are works of art, and worth seeing are the 46m reclining Buddha at Wat Pho, the imposing 82m tower of Wat Arun (Temple of Dawn), and Wat Benjamabophit, a marble masterpiece built in the reign of King Rama V.
Art on DisplayBangkok’s National Museum, open Wed.–Sun., 9am–4pm, displays relics of early civilization and Thai art from the Sukhothai period onwards. The nearby National Gallery exhibits traditional and contemporary works. The Royal Barges Museum on the Chao Phraya River, open 9am-4pm daily, shelters magnificently carved and painted barges used in royal river processions since the early 1900s; the longest measures 50 meters.
Dinner, Dance, DramaNext door to the National Museum, the National Theater holds classical Thai dance and drama performances most weekends, as does the air-conditioned Chalermkrung Theater (New Rd), twice weekly at 8pm. Restaurants such as Baan Thai (Sukhumvit Rd), Maneeya Lotus Room (Ploenchit Rd) and the Oriental Hotel’s riverside Sala Rim Nam offer excellent dinners accompanied by Thai dance shows.
Box CarefullyThai boxing, Muay Thai, is held at Rajadamnoen Stadium on Rajadamnoen Nok Rd (Mon, Wed, Thur, Sun) and Lumphini Stadium on Rama IV Rd (Tue, Fri, Sat). Go in the evenings, not to the staged afternoon shows, and buy tickets from the booths, not from touts.Reference : http://www.circleofasia.com/Arts-and-Culture-Thailand.htm

Koh Kham Yai

About 800 metres northeast of Koh Si Chang is a peaceful island of Koh Kham. It boasts private atmosphere and simple lifestyles of local fisherman. Here you will find peace amidst the blue sea and sandy beach. This is an island with a community of approximately 40 families.
A boat ride from Koh Si Chang can take you to this island in only 30 minutes. You can start from the beach the ferry. Walk on to the east, there is a stony beach or Haad Kruad. From this beach ones can see the three islands named Koh Kham Noi, Koh Prong and Koh Ran Dokmai. You can walk to Ao Sapparod, which is a clean sandy beach suitable for swimming. From the beach, there is a small walking path leading to the viewpoint that offers a panoramic view of sunset. A walking tour around the island takes about 2 – 3 hours.
Koh Kang Kao Koh Kang Kao is a small island in the southeast of Koh Si Chang. This peaceful and evergreen island is a popular place for snorkeling.
Situated just 2 kilometres from Koh Si Chang, the island has only been known to tourists recently. This small island may not have striking white sand beaches but it is ideal for leisure fishing, camping and snorkeling. There is only one small resort, run by islanders, in the island. To get here, most tourists buy a package tour that includes roundtrip boat transfer, snorkeling tours, meals and accommodations.
Reference : http://www.circleofasia.com/Koh-Si-Chang-Thailand.htm

Koh Si Chang

Located some hundreds kilometre east of Bangkok, Koh Si Chang is the most well known and biggest island in Chonburi Province. The island has been in a tourist map since the early 20th century. Covering an area of 18 square kilometers, it is surrounded by small islets; namely Koh Kham Yai, Koh Kham Noi, Koh Prong, Koh Ran Dokmai, Koh Sampan Yeu, Koh Kang Kao, Koh Yai Tao, and Koh Tai Ta Meun.
The geography of the island consists mostly of hills and a few small beaches. There is no resource of fresh water on the island. Thus, the locals have water transported by boat from the shore. The highest point of Koh Si Chang is on a hill north of the island, approximately 192 metres above sea level. It undoubtedly offers the best outlook of the island.
The island welcomes more tourists during weekend as passenger boats from Charin pier in Sriracha District disembarks at Tewawong pier (or Tha Lang). From this pier, ones could get to other parts of the island by local taxi.
Despite a large number of tourist arrivals, the main source of income of islanders comes from fishery. Therefore, we can see simple and traditional lifestyles of islanders here. The most important attractions on the islands are old European style buildings that are remnants from the early 20th century when King Rama V took refuge here during summer. Nowadays, there are a few small hotels on the island.
Islands around Koh Si Chang
Reference : http://www.circleofasia.com

Phi Phi Island

This pair of islands offers great opportunities for climbing, kayaking swimming and caving in surroundings of unparalleled beauty.
Top DestinationThe two islands of Koh Phi Phi (Don and Leh) are some of Thailand’s most alluring. This is sometimes a curse, as despite their national park status, developers have encroached to cash in on tourism. Nevertheless, newcomers are awe-struck by the area’s natural splendor, and Koh Phi Phi remains a foremost tourist destination.
The larger Phi Phi Don consists of two rock masses bridged by a strip of white sand with beaches on both sides. The southern beach (Ao Ton Sai) is more developed, with boats anchoring in the calm bay. The legendary tranquility has gone, but one blessing is that decent restaurants and bungalows are easy to find. The northern beach (Ao Lo Dalam) is comparatively rougher, with fewer bungalows than Ao Ton Sai. More lovely beaches are on the longer, eastern side of the island, known as Koh Nai; a sea gypsy community occupies Laem Thong in the north. Koh Nai’s beaches include Ao Lo Bakao, Hat Yao and Hat Lanti, popular with surfers. The western portion of Phi Phi Don, Koh Nawk, is mostly uninhabited.
Caves, Climbs & DivesPhi Phi Leh comprises mainly cliffs and a sea lake. In the famous Viking Cave, men climb flimsy bamboo scaffolds to collect swifts' nests from the cavern walls. There are prehistoric paintings here, alongside more recent pictures from the last century or so.
Phi Phi Don offers plenty of activities. Diving, snorkeling and fishing trip operators work from Ton Sai. Kayaks are available on Ao Lo Dalam, and climbers will enjoy the challenges of over 100 routes on the island’s cliffs.
Reference : http://www.circleofasia.com/Phi-Phi-Island-Thailand.htm

Koh Lanta

This collection of islands is populated by sea gypsies, riddled with spectacular caves and features great diving among its coral reefs.
Island ChainKoh Lanta actually comprises about fifty islands, many with mangrove forests and coral reef beaches. The largest and most popular island is Koh Lanta Yai; the main village is Ban Sala Dan. Tourists stay in guesthouses and bungalows, although nearby islands have camping facilities.
Fishing VillageThe people of Koh Lanta are mainly Thai Moslems, many of whom have mixed with sea gypsies. Most work on plantations, but some live from fishing. Ban Sangkha-U, a traditional southern fishing village, is a good place to experience the character of the local people. There are very few cars in the village, as on most of the island, and the main circular road is unpaved.
Marine LifeKoh Lanta’s beaches do not match those of Koh Samui or Phuket, but they are relatively peaceful: all on the west coast, the nicest are on the northern and southern ends. This coast supports plenty of coral, and dive sites at Hin Daeng and Hin Muang offer rich marine life, including the occasional whale shark. Visibility is best from November to April.
Cave ComplexTham Khao Mai Kaew, in the center of Koh Lanta, is a vast and disparate cave complex with stalactites, stalagmites, a cavern pool and thousands of bats. Taking a guide is recommended; there is a restaurant and guide service near the start of the path to the caves. Some guesthouses arrange transport to the trail. You can get good views of the island from Deer Neck Cape (Laem Khaw Kwang) in the north.
Reference : http://www.circleofasia.com/Koh-Lanta-Thailand.htm

Koh Samed

Sundhorn Phu, Thailand's Shakespeare, described Koh Kaew Pitsadan (the magical crystal island), which is believed to be the present Koh Samed, in his famous Thai literature ‘Phra Aphaimanee’ as a beautiful island that shelters his main character from a lovelorn giant - she is broken-hearted and dies on the crystal sandy beach of the island. Even though you won't see her remains anywhere on Koh Samed, you're sure to see its crystal white sandy beaches, especially on the Had Sai Kaew or Sai Kaew Beach.
Koh Samed was named after the Samed Tree or the cajuput tree that grows everywhere on the island. It was declared ‘Khao Lam Ya – Samet Archipelago Maritime National Park’ in 1981. The park encompasses Had Mae Rumpueng-a beach on the coast of Rayong, Lam Ya Mountain and the Samet Archipelago that consists of Koh Samed, Koh Chan, Koh San Chalam, Koh Hin Khao, Koh Kang Kao, Koh Kudee, Koh Kruoy and Koh Plateen. An ecological tour can be conducted through three itineraries on Koh Samed, Koh Kudee and Lam Ya Mountain.
To reach the island, tourists must take a local fishing boat, from Ban Phea in Muang District of Rayong Province for about 30mins. Boats run back and forth around the clock with the minimum of seven passengers. There are direct routes to some beaches including Had Sai Kaew and Ao Wong Duan, from which one can walk to other beaches through a relatively primitive inland road network. Most of the beaches are located on the northern and eastern sides of this T-shaped island whereas only a few, that is, Ao Prao, Ao Kham and Ao Kiu Na Nai lie on the west. It is more convenient to reach Ao Prao by a direct ferry from Ban Phea.
The weather on the island is more comfortable than inland area. However, the rainy season runs from May to September with heavy rains, high surges and monsoons in May. Ideal activities here are sunbathing on the beach, making an inland excursion on foot or by chartered bus, and taking a boat trip around the island. Also recommended is making a trip to some nearby isles.
Koh Tai Kang Kao and Koh Tam Rusi, located near Koh Kudee, offer swimming, scuba diving, seeing coral reefs and camping. There is information for accommodations and campgrounds provided at the park office on these isles. Koh Kruoy, Koh Kham and Koh Plateen, 600 meters north of Koh Kudee, are also other sites superb for coral reef exploring while Koh Talu is excellent for trekking, seeing some rare species of bats and turtles, and deep water diving.
Take note that the island is popular among local and foreign tourists and it is hard to find accommodation during the peak season, usually March, while September is the scantiest.
Reference : http://www.circleofasia.com/Koh-Samed-Thailand.htm

Koh Chang

With white sand beaches, waterfalls and coral reefs and more than 40 outlying islands, uncrowded Koh Chang is a relative newcomer to the scene.
Second Largest IslandPristine rainforest covers rugged, hilly Koh Chang, Thailand’s second largest island. Mangroves and beach forest line the shores, and the whole island supports a huge diversity of wildlife, including macaques, monitor lizards, pythons and barking deer. White-winged terns, nightjars and several species of hornbill are some indigenous birds; many others migrate here.
Traveling to Koh Chang is more convenient than before as Bangkok Airways offers direct, 50-minute flights from Bangkok to Trat, with Laem Ngob pier just 10 kilometres from the airport. The cheaper way is to take a bus from the Eastern Bus Terminal in Bangkok; get off at Akemai BTS sky train station. The trip takes about five and a half hours.
Beaches in Koh ChangHad Sai Khao Had Sai Khao is famed for delicate white sand along a 6-kilometer beach. The beach is dotted with towering palms and coconut tress. The most popular beach in the island, it is not surprising to see a wide variety of resorts and bungalows lining behind the trees.
At night Had Sai Khao is illuminated with lights from pubs and bars, restaurants that are located along its beachside road. There are plenty of grocery stores, car and motorbike rental shops and petrol stations.
Had Klong Prao Had Klong Prao, which means the bay of coconuts, derives its name from a number of coconut trees found along its beach.
This beach begins at Chaiyachet Cape, which offers a good viewpoint of the island at sunset. The beach is less crowded than Had Sai Khao and suitable for swimming and water sports. People staying on this beach can rent a bicycle or take a minibus to Klong Plu Waterfall which is only 3 kilometers from the beach. Accommodations on this beach are simple. Most of them nestle among dotting trees.
Had Kai Bae Fifteen kilometres from Had Klong Prao is Had Kai Bae. It is a popular place among foreign tourists who come here for sunbathing. The beach has a slight slope into the sea that is favourable for swimming. Tourists who want to visit neighbouring islands such as Koh Yuak, Kh Man Nok and Koh Man Nai can hop in a boat from this beach.
Had Kai Bae is more colourful at night with restaurants and pubs vying for customers. For those who enjoy seafood, there are many seafood restaurants overlooking the beach. Accommodations here come in different styles from basic to luxury.
Waterfalls Situated near the office of Koh Chang National Park, Thanmayom Waterfall is the largest waterfall in the island and also a major source of water for islanders. The four-tier waterfall has a historical significance to the locals as it was visited by two Thai kings in the early twentieth century. Even though the fall can be accessed throughout the year, it looks more picturesque in the cool season. Most people stay around the first and second tier of the fall because the path to the third and fourth tiers is too steep and slippery.
Klong Plu Waterfall is another popular tourist attraction for those who stay near Had Klong Prao or Had Kai Bae. The fall is only 3 kilometres from Had Klong Prao and reached by road. The first tier of the fall is the best spot for a dip or relaxation since it has a small pool under the canopy of lush green trees. Like Thanmayom Waterfall, Klong Phu Waterfall is at its best in the cool season which starts from November until February.
Hiking TrailsKoh Chang offers scenic hiking trails that take just a few hours, particularly from Khlong Son to Hat Sai Khao, and from there to Hat Khlong Prao. In the south, the harder and longer Kaibae - Ao Bang Bao trail passes through shady rubber and coconut plantations; the locals can direct you. The three-step Than Mayom Falls, the first of which is less than an hour’s walk from Tha Than Mayom, is well worth hiking to. Rocks on the first and third steps bear the engraved initials of Kings Rama VI and Rama VII, and Rama V respectively.
Arrive PreparedBeach huts and guesthouses of varying standards and prices are the main accommodation on Koh Chang. Most are near beaches like Ao Khlong Son, Ao Khlong Prao and Hat Kalibae. On holidays, Bangkok vacationers reserve the nicer resorts. Change your money on the mainland, as Koh Chang has no banks - only moneychangers offering poor rates for US dollars. There is a clinic at Khlong Son.
Shipwreck DivesDiving around the island is best in the south, from November to April. There are good corals and marine life, and with a guide you can see the wreck of a Thai warship sunk in 1941 off Ao Salak Phet. Koh Chang Divers (Hat Sai Khao) and Seahorse Dive Center (Hat Kaibae) are popular PADI centers.
Reference : http://www.circleofasia.com/Koh-Chang-Thailand.htm

Koh Phangan

Koh Phangan is probably better known as an island of a full moon party where both young Thai and foreign tourists become quite inebriated and party on into the night in gay abandonment. The party is periodically held at Had Rin, a beach on the southern tip of the island.
However, Koh Phangan is not famous solely for its “Full Moon Party”; its unspoiled nature and clear waters, magnificent beaches, backed by dense jungles, give rise to a number of outdoor activities including skin diving, scuba diving, trekking, bird-watching and observing the lifestyles of local folk.
Long before the full moon party exists, the island has long been known among local tourists for its natural beauty. King Rama V, who ruled Thailand from the late 19th century to early 20th century, visited Koh Phangan on 14 separate occasions, graciously bestowing names on many places like Than Sadet Waterfall. The king also released deer on the island that nobody dared to hunt; today they roam in great numbers.
LocationLocated in the Gulf of Thailand about 100 kilometres east of Surat Thani coast, Koh Phangan is 20 kilometres north of the bigger island of Koh Samui.
Covering an area of 168 square kilometers, Koh Phangan is Thailand’s third largest island in the Gulf of Thailand after Koh Chang and Koh Samui. Smaller islands, including Koh Tae Nok, Koh Tae Nai, Koh Ma and Koh Tao, are grouped around Koh Phangan some 40 kilometers distant. It is one of 48 islands in the archipelago that makes up Ang Thong National Marine Park and has been inhabited for a thousand years. Malays were the first group to settle on the island; hence some places carry Malay names like “Koh Ra Hum”, which means “shadow” and is the former name for Koh Phangan. Then there’s “Loh Da Lam” the former name for Ban Chaloke Lam.
Buddhism predominates on Koh Phangan, only 5% of the populace being Muslims. The main industry is agriculture, coconut farming and fishing. For some years, the travel industry has taken over as the most profitable pursuit on the island with many landlords selling their land to move on or invest in hotels and resorts.
Thong Sala Pier: gateway to the islandLocated on Koh Phangan’s west coast, Thong Sala pier is the dropping-off point for all boats visiting the island and, as such, the main gateway to the island. All visitors have to start and finish their trip at Thong Sala.
As the port is at the heart of things, care needs to be exercised when planning your travel movements. Thong Sala pier is the site of the Siam Commercial Bank, bungalows, restaurants, boutiques, souvenir shops, Internet café, and so forth.
To get to Koh Phangan, take an express boat that is run twice a day from Nathon pier on Koh Samui to Thong Sala pier or a ferryboat from Don Sak pier in Surat Thani.
Reference : http://www.circleofasia.com/Koh-Phangan-Thailand.htm

Phuket, Thailand

Visitors to Phuket Province generally head for the sea, but the interior is worth exploring for its vivid patchwork of plantations and rice paddies, crowned by the island's last rainforest in Khao Phra Thaw Royal Wildlife Reserve. Here, rainy season hikes provide the best views of Ton Sai and Bang Pae waterfalls, with possible sightings of resident wildlife such as flying foxes and slow loris: visit the Gibbon Rehabilitation Center near Bang Pae falls and see how they reintroduce captive gibbons to the jungle.
Phuket's limestone cliffs and palm-fringed tropical beaches are its biggest attractions. Sunseekers flock to its blue waters, with many enjoying the shopping and nightlife of vibrant Patong. A few quieter beaches to investigate are Karon, Kata, Rawai and Surin.
Situated in the Andaman Sea, Phuket is a world-class dive destination with countless pristine sites and just as many operators, mostly around Patong. Experienced yachtsmen looking for all-inclusive charters will find fair-to-excellent craft with great facilities at the Phuket Boat Lagoon (Ao Sapam) and the Yacht Haven Phuket (Laem Phrao).
Reference : http://www.circleofasia.com/thailand/phuket/

Trang

Primarily a rubber trading center, Trang is a good base to visit lush tropical parks nearby, including clusters of untouched islands.
Trang has numerous exotic islands and natural wonders. One island has the nicest beach while some has an underwater cave and an inland emerald green lagoon. Some island is a habitat of sea cows and migrating birds while some boosts the best diving spot. To get to these islands, most travelers start from Pakmeng Beach.
Pakmeng Beach Pakmeng Beach is regarded as center of the trips in the Trang Sea. At high season, tour boats set off the first trip early in the morning. From its beachfront road, ones can admire the beautiful scenery with a view of the Trang Sea in the shade of pine trees. The beach has border with Chang Lang Beach, which is another beautiful beach. This is the beach where a 4 star Amari Trang Beach Resort is located. The beach ends at the office of Had Chaomai National Park. The setting along this long beach line is charming and peaceful. It is strange that the water from the canal that flows into the sea at this beach does not bring the soil sediment to spoil the sand. Traveling toward the end of the beach, ones will reach Had Chaomai National Park. The beach that stretches along the park is of bright silver and shady with pine trees. Camping is said to be a popular activity among locals during weekends. There is a small hill near the beach called Khao Baena, that houses the remaining of pre-historic mural paintings. The beach near Khao Baena presents an impressive view if the sunset.
Koppee & Kanom ChinWhile visiting Trang, try Chinese Hokkien filtered coffee (koppee) from cafes and stalls everywhere: it usually comes with snacks. Moslem food is common, and the curries and rotis are especially good. Also popular are curried Chinese noodles (kanom Chin). For souvenirs, local wicker baskets and mats are of particularly fine quality: Tha Klang Market offers great deals on these and woven cotton fabrics.
Scenery & WildlifeThe scenery of Trang Province resembles that of Phang-Nga, yet fewer tourists come here. About 35 km from Trang town, Hat Jao Mai National Park encompasses various islands and beaches supporting sea otters, monitor lizards, pangolins and many other animals: resident birds include sea eagles and egrets. Many species of waterbird nest and breed in the marshy Khlong Lamchan Waterbird Park, east of Trang town.
Cave CarvingsTrang Province is dotted with caves: Tham Phra Phut shelters a large reclining Buddha, and Tham Tra is adorned with enigmatic carvings of seals. More caves near the broad, sandy beach of Hat Jao Mai contain fossils and ancient human bones. From here, boats sail to nearby Koh Libong. Waterfalls are plentiful, too. The remote Roi Chan Phan Wang is unique for its numerous mini-falls that feed pools in a shady picnic park amid limestone rock formations.
Reference : http://www.circleofasia.com/Trang-Thailand.htm

Pranburi

Pranburi is some 30 kilometres south of Hua Hin and a district of Prachuap Khiri Khan Province. The beach itself may not be spectacular but its peaceful environment infuses a sense of privacy and exclusivity. It was never a popular weekend destination among travelers. In the past, holidaymakers preferred to stay in Hua Hin and drive to Pranburi for a one day trip.
However, this is not the case, today, since it becomes a popular getaway among travelers from Bangkok who seek to relax in style. That contributes to the increase in the number of chic and boutique resorts. The trend started in 2002 when Soneva hotelier group opened its first boutique resort in Pranburi. The resort was a huge success, luring local and foreign investors to follow its footstep. Yet it maintains its serenity. Some resorts in Pranburi offer a shuttle van service for their customers who want to go to Hua Hin for a night out. Nowadays, Pranburi is a tourist attraction by its own.
An interesting attraction nearby Pranburi is the Pranburi Forest Park, which occupies a large area with a 1-kilometre pine-fringed beach and mangrove nature trails.
Reference : http://www.circleofasia.com/Pranburi-Thailand.htm

Chanthaburi

Of all provinces in the eastern coast of Thailand, Chanthaburi is lesser known to tourists, partly due to its 250 kilometre distance from Bangkok. However, that does not mean it lacks the beauty a good beach destination has.
Perhaps unknown to many tourists, Khung Wiman Beach, Khung Krabain Bay, Laem Sadet Beach and Chao Lao Beach are both peaceful and picturesque. Their scenic beachside roads are featured in several TV commercials.
BeachesKhung Wiman BeachThe most scenic beach in Chanthaburi, Khung Wiman has a beautiful beachside road that goes along a fine brown sandy beach and winding hillside roads. The beach is flanked with pine trees while the water is clear and good for swimming. It is considered one of Thailand’s most beautiful beachside roads and often used in TV commercials in Thailand.

Next to Khung wiman Beach is Khung Krabain Bay. It is the site of Chanthaburi’s verdant mangrove forests and the Khung Krabain Study and Development Centre under Royal Patronage. You can explore the mangrove forest via an 850 metre-long wooden bridge. Spare at least half an hour.
Laem Sadet BeachLocated opposite Khung Krabain Mangrove Forest, Laem Sadet beach stretches 3 kilometres long on a white sandy beach. The bay is shady with pine trees and fine for swimming. There are a few resorts on this beach.
Chao Lao BeachLocated east of Khung Krabain Bay is Chao Lao Beach. The beach is popular among locals who come here on weekend. It boosts brown sandy beach and shallow water suitable for swimming. There are some good resorts by the beach.

Reference : http://www.circleofasia.com/Chanthaburi-Thailand.htm

Cha-am

Thailand’s longest white sand beach is the main feature of this lesser-known resort town only two hours outside of Bangkok.
Longest BeachAs most foreign beachgoers choose to stay at nearby Hua Hin, Cha-am is very much a Thai resort. 178 km from Bangkok, it is quiet on weekdays, busier on weekends and bustling on holidays. With no real center, the town stretches along the length of the white-sand beach, said to be Thailand’s longest. However, the post office and market are near the train station, and these three landmarks constitute the old center.
Beachside Accommodation The beach has plenty of deckchairs and umbrellas for rent, and beer, soft drinks and tasty seafood are available all day long from local vendors. After swimming in the sea, you can wash off with fresh water at one of the public bathhouses for a nominal charge. There is a good selection of accommodation set back from the beach, with small hotels for budget travelers and more luxurious big-name chains for those looking for something a bit more comfortable.
Summer PalaceNine km south of Cha-am, the summer palace (Phra Ratchaniwet Marukhathayawan) of King Rama VI is open to the public through the gates of Rama VI Military Camp during government office hours (9.00 a.m. – 4.30 p.m.). The palace consists of a series of one-and-two-floor units on stilts, linked by covered walkways. The whole structure is made of teak, with shuttered windows and tiled roofs similar to those of Vimanmek Mansion in Bangkok.Reference : http://www.circleofasia.com/Cha-am-Thailand.htm

Chumphon

This relatively untouristed gateway to the south offers good beaches and diving plus some lively festivals.
Gateway to the SouthConsidered the gateway to the south, Chumphon is often overlooked by tourists who are heading to its neighboring provinces such as Surat Thani, Phang-nga and Phuket. However, Chumphon has a number of natural attributes of interest ranging from high mountain ranges, mangrove forests, offshore islands and fertile coral reefs - especially those found in Chumphon Marine National Park. In addition it has been recently known among international divers as a gateway to Koh Tao. Indeed, touring Chumphon presents a variety of interesting attractions from temples and caves to river rafting and diving.
Geography and weatherLocated 463 km south of Bangkok, Chumphon is bordered by a mountain range and the province of Ranong and part of the Thai-Burma border to the west, the Gulf of Thailand to the east, Prachuap Khiri Khan province to the north, and Surat Thani province to the south. Chumphon is vulnerable to monsoonal rains from the Gulf. There are two distinct seasons: the rainy season from June until January, and summer from February to May. The three rivers of Taphao, Chumphon and Lang Suan bring regular, year-round flows of water to Chumphon.
HistoryInformation contained in the “Three Emblems Law” (Kod Mai Tra Sam Duang), during the reign of King Borommatrilokanad of the Ayutthaya Kingdom (15th century), indicates Chumphon to be 600 years old. There are virtually no ancient places of interest in Chumphon or items of antiquity, maybe due to the sparseness of land and the fact the relatively narrow land mass of the Isthmus of Kra was often the scene of battles, making the area unsuitable for development. A target of enemies since the Ayutthaya Period, this area is a focal point for armed forces to congregate and pray for victory in a sacred ceremony before going to war. Here, where armies receive blessings, lies the source of the name “Chum Num Phon” (“chum” means to assemble, “phon” means blessing). Later, Chum Num Phon was changed to Chumphon. During World War II, on December 8, 1941, Japanese troops amassed at the entrance to the river at Chumphon and launched an attack on Tha Nang Sang Bridge. Local residents and young Thai soldiers fought back courageously; an act commemorated in Chumphon to the present day.
Reference : http://www.circleofasia.com/Chumphon-Thailand.htm
Phang Nga
Though the town is quiet, it is surrounded by natural parkland, featuring caves, uninhabited islands, coral reefs and archaeological sites.
While unremarkable in itself, Phang-Nga town is surrounded by hauntingly beautiful national parks with striking rock formations, limestone cliffs and uninhabited islands.
Colorful Wildlife Ao Phang-Nga National Park, with its famous "James Bond Island" from the 007 film The Man with the Golden Gun, has hundreds of rocks and cliffs with picturesque coves and mangrove forests. The waters of Ao Phang-Nga support several species of sea snake, and giant two-banded monitors (some longer than two meters) live in the mangroves. The islands host various reptiles and mammals, including gibbons, macaques and langurs.
Prehistoric ArtThis wildlife has long interested humans, evident from the wealth of local prehistoric rock art, especially at Khao Khian, Than Nak and Koh Panyi. The latter hosts a 200-year-old Moslem fishing community whose cliff-bottom houses are all on stilts: visit around mid afternoon, after the tourist boats have gone.
Cave WalksSuan Somdet Phra Srinakarin Park also contains limestone cliffs, and some have caverns and tunnels with walkways from which to view the pools below. For cave enthusiasts, Wat Tham Suwankhuha has a 15-meter reclining Buddha in a grand, ornately decorated cavern; a smaller one contains numerous assorted effigies.
Diving & HikingFor good beaches, try the west coast of Phang-Nga Province or cruise out to Muu Koh Similan (The Similan Islands), about 60 km from Hat Khao Lak and Thap Lamu. The beaches here are nice for swimming and snorkeling, while diving offers excellent visibility. Koh Similan, the largest island, has hiking trails and good sea views from its highest point. The island's rich wildlife includes porcupines, lemurs, pythons, dolphins, turtles and up to 32 bird species.
Reference : http://www.circleofasia.com/Phang-Nga-Thailand.htm

Pattaya, Thailand

Pattaya is 140 kilometres east of Bangkok. The town can be accessed by road and railway - the former is the most popular. Starting from Bangkok, tourists have a number of options in terms of a road trip such expressway, motorway and elevated highway. A trip by bus from the Eastern Bus Terminal in Bangkok takes merely 2 hours to get to the first beach of Pattaya.
Traveling around Pattaya is easy. Motorbike taxi and pickup truck converted bus (locally known as Song-Taew) can be seen everywhere. The beachside road is one-way street that connects North Pattaya, Middle Pattaya and South Pattaya - the last one is a walking street at night. Additionally, you can also drive along its inner city road to Jomtien beach.
Only two hours from Bangkok, this resort city caters to every whim. Lazy afternoons on the beach, go-karting, paintballing, golf, and full-steam-ahead nightlife are just a few of the entertainments on offer.
Pattaya is purpose-made for holiday fun and provides it with the utmost in convenience. A tiny fishing village only twenty-something years ago, it has swiftly developed into an extraordinary vacation spot catering to the holiday maker's every whim. Pattaya has it all: tranquil beaches, lavish resorts, luscious seafood and a gamut of sporting and leisure activities - all less than two hours from Bangkok's concrete jungle
Reference : http://www.circleofasia.com/thailand/pattaya/

Pattaya, Thailand

Pattaya is 140 kilometres east of Bangkok. The town can be accessed by road and railway - the former is the most popular. Starting from Bangkok, tourists have a number of options in terms of a road trip such expressway, motorway and elevated highway. A trip by bus from the Eastern Bus Terminal in Bangkok takes merely 2 hours to get to the first beach of Pattaya.
Traveling around Pattaya is easy. Motorbike taxi and pickup truck converted bus (locally known as Song-Taew) can be seen everywhere. The beachside road is one-way street that connects North Pattaya, Middle Pattaya and South Pattaya - the last one is a walking street at night. Additionally, you can also drive along its inner city road to Jomtien beach.
Only two hours from Bangkok, this resort city caters to every whim. Lazy afternoons on the beach, go-karting, paintballing, golf, and full-steam-ahead nightlife are just a few of the entertainments on offer.
Pattaya is purpose-made for holiday fun and provides it with the utmost in convenience. A tiny fishing village only twenty-something years ago, it has swiftly developed into an extraordinary vacation spot catering to the holiday maker's every whim. Pattaya has it all: tranquil beaches, lavish resorts, luscious seafood and a gamut of sporting and leisure activities - all less than two hours from Bangkok's concrete jungle
Reference : http://www.circleofasia.com/thailand/pattaya/

Hua Hin, Thailand

The name Hua Hin – ‘rocky head’ in Thai - is derived from the rocks that can be seen on the beach in front of the Sofitel Central Hotel. It has a 5-kilometer beach lined with a variety of private beach houses and 5 star resorts. The beach stretches some 7 kilometres from the hill in the south called Khao Takiap, where the famous temple Wat Khao Takiap is located. The beach is wide and long with white sand and scattering rocks in some area. Some parts of the beach can be tranquil but activities such as horse riding, kite boarding, and water sports can also be found here.
This popular resort town is about 200 kilometres south of Bangkok and can be reached by car, train and flight. It offers a wide range of beachfront accommodation, good golfing, and seafood galore.Part of Prachuap Khiri Khan Province, Hua Hin is becoming increasingly popular, although it has all but escaped the gaudy excesses of Pattaya and Patong. The town boasts accommodation to suit all budgets, with a good selection of resorts spread along its white sandy beach. Golfers can enjoy the 72-par Royal Hua Hin Golf Course for a reasonable non-member’s fee.
Reference : http://www.circleofasia.com/thailand/hua-hin/

Krabi, Thailand

Krabi has a nice seaside atmosphere with cheap accommodation, tasty Thai/Moslem food and friendly people. Its striking rock formation islands and beautiful beaches made the area a pirate haven in bygone days. Now mainly a stopover for tourists going to outlying islands, the town itself is nice for short visits.
Local beaches include Hat Noppharat Thara, Ao Nang and Ao Phai Phlong. All are lovely, but one of the finest is Hat Tham Phra Nang, with a cave where fishermen honor the spirit of an Indian princess said to have perished here over two thousand years ago.
Ao Nang Bay is known as the center of all beaches in Krabi. From here, tourists get on a boat for a tour at Koh Poda archipelago to see the parting sea while adventurers head to Ao Rai Lay for rock climbing. For stunning beach and scenery, many people opt for Ao Tham Phra Nang Bay, which is about a 10 minute boat ride from An Nang Bay. There are plenty of restaurants and tour agencies that provide bus and plane tickets, or package tours to the sea and the jungle. A variety of accommodations are available from budget guesthouses to luxury resorts.Off Krabi shore, Phi Phi archipelago has a reputation for fine diving sites with a variety of colorful coral reefs and marine life. Therefore, it is a good idea to take a boat from Krabi or Phuket to Phi Phi for a snorkeling or diving trip. Indeed, From November to March is the best time to come to the Andaman sea at this time of the year since the skies are clear, making clear visibility underwater.
Reference : http://www.circleofasia.com/thailand/krabi/

Ubon Ratchatani

This major center of the Northeast has changed hands many times over the centuries and has the artifacts to prove it.
The Farmers’ CapitalUbon Ratchathani, population 92,000, is the main educational, financial and agricultural market center for eastern Isan, the dry and dusty farming region that makes up much of Thailand’s landmass. The area has changed hands over the centuries between prehistoric tribes, Cambodia (Khmer era), Laos and Siam, and the Ubon National Museum contains many treasures from all of these periods that are worth a look. There are also many temples worthy of note.
During the Vietnam War, Ubon was a major air base from which the US bombed Vietnam, Laos and Cambodia, though there is little evidence of that now.
Silver and FabricsThe region’s close, cultural affiliation with Laos shows in Ubon’s production of fine silk fabrics and silver products. The fabrics, which make great wall hangings and tablecloths back home, are hand loomed in intricate patterns and many use secret dye recipes passed down through generations. The silver comes in various forms, though the local specialty is betel boxes for avid chewers of the mild intoxicant that is so popular among the older women of the region.
A Festival To Light the WayThough the Candle Festival is held in a few places in the country, Ubon does it best, as the town packs out and spirits run high. Beginning at the time of the Buddhist Rains Retreat in late July, when the monks traditionally give up wandering in favor of concentrated meditation. This five-day festival features parades, beauty contests and carved candles of every size and shape imaginable – both realistic and abstract.
Reference : http://www.circleofasia.com/Ubon-Ratchatani-Thailand.htm

Mae Hong Son

This quiet town by the Burmese border makes a great base for nature treks and visits to hill tribes such as the long-necked Padaung people.
Temple ArchitectureAlthough tourism is increasing in Mae Hong Son, the town remains reasonably serene. The townspeople are mostly Shan, and local temple architecture shows their influence: one exquisite example is the picture-perfect Wat Jong Kham, set beside a large pond. Another is Wat Phra That Doi Kong Mu, which offers charming views from its hilltop location.
Hill TribesVarious ethnic groups are scattered throughout the province, including Karen, Lisu and Lahu, and guided treks from Mae Hong Son pass through their villages. Some are near the town and easy enough to reach by yourself. Of all the hill tribes, the long-necked women of the Padaung from Myanmar are probably the most photographed: they wear brass coils that make their necks and limbs appear unusually long. Nai Soi, Hawy Sen Thao and Huay Ma Khen Som are well-frequented Padaung villages.
FestivalsIn March, the colorful Poi Sang Long festival celebrates the ordination of Shan boys into the monkhood. The elaborately dressed boys are carried around the temple, usually Wat Jong Kham or nearby Wat Jong Klang. Folk dancing and drama are a major part of the Buddhist Jong Para festival in October, and local people release small decorated floats onto ponds and rivers during Loi Krathong in November.
Soft AdventureA quaint place to visit in Mae Hong Son province is the small, endearing town of Pai. The surrounding area offers trekking, bamboo rafting and elephant riding. After a trek, you could try the services of Pai Traditional Massage, close to the Pai River.
Reference : http://www.circleofasia.com/Mae-Hong-Son-Thailand.htm